วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

WeChat 4.2 เวอร์ชั่นล่าสุด มาพร้อมฟีเจอร์เทพ

จากเมื่อคราวที่แล้ว ทาง Sanook Hitect  ได้เคยนำเสนอโปรแกรมแชท บนมือถือตัวใหม่สุดฮอตจากแดนมังกร ชื่อว่า "WeChat" ไปแล้วนั้น  ตอนนี้ก็มีเวอร์ชั่นใหม่ อัพเดทออกมาได้เล่นกันอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่า เอาใจคอแชท ทีเดียวเลยละครับ 
มีอะไรเจ๋งบ้างในเวอร์ชั่น 4.2
  1. วีดิโอแชทระบบ HD  แชทเห็นหน้าใช้แค่ 3G ไม่ง้อ Wifi อยู่ไกลกันแค่ไหน ก็เห็นหน้ากัน ได้หายคิดถึง
  2. WeChat ออนเว็บ  แชทผ่านเว็บบนเครื่องคอมพิวเตอร์ พิมพ์กันรัวๆ จะอยู่ออฟฟิศ จะอยู่บ้าน หรือ อยู่ที่ไหนๆ ก็แชทกันได้ไม่ขาดตอน
  3. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเมื่อแชร์รูปใน moment ได้ และแชร์รูปได้สูงสุดครั้งละ 9 รูป
  4. ตอบกลับคอมเมนต์เพื่อน โดยใช้ @
  5. รองรับการใช้งานบลูธูท
  6. คู่มือสำหรับนักพัฒนา (Open API) http://dev.wechatapp.com/
อ้างอิง http://hitech.sanook.com/988720/wechat-4.2-เวอร์ชั่นล่าสุด-มาพร้อมฟีเจอร์เทพ/

แนะนำตัวจ้า...

นายวุฒินันต์  ขวัญนู  ชื่อเล่น  เจน
อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา จ.ศรีสะเกษ
เรียนสาขาวิชาคณิตศาสตร์  ชั้นปีที่ 4  หมู่ 1
วิทยาลัยการฝึกหัดครู 
มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
คติประจำใจ ทำวันนี้ให้ีที่สุด
      ***........................................***

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เทคโนโลยีเว็บ 2.0 คืออะไร

เทคโนโลยีเว็บ 2.0 คืออะไรWeb 2.0 จริง ๆ แล้วก็คือการให้ความหมายของสิ่งที่เปลี่ยนไปของเทคโนโลยีเว็บไซต์ ซึ่งก็เหมือนกับที่สมัยก่อน เราเปลี่ยนจากทีวีขาวดำมาเป็นทีวีจอสี โดยกำหนดตัวเลขว่าเป็น generation ที่ 2 ของเว็บนั่นเอง สิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ Web 2.0 นั้นก็ เช่น AJAX, Blog, Feeds, Podcast, Socialnetworking ฯลฯ โดย Web 2.0 application จะคุณสมบัติดังต่อไปนี้ให้ความสำคัญกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะมีส่วนร่วมต่อเว็บไซต์มากขึ้นไม่ใช่แค่เข้ามาชมเว็บไซต์ที่เจ้าของเว็บจัดทำขึ้นเท่านั้น ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถสร้าง content ของเว็บไซต์ขึ้นมาได้เองหรือสามารถ tag content ของเว็บไซต์ (คล้ายๆการกำหนด keyword ที่เกี่ยวข้องกับ content โดยผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นผู้กำหนดขึ้น) ตัวอย่างเช่น Digg, Flickr, Youtube , WikiWeb 2.0 application จะมีคุณสมบัติที่เรียกว่า RIA (Rich Internet Application) นั่นคือ Web 2.0application จะมี user interface ที่ดียิ่งขึ้น เช่น คุณสมบัติ drag & drop ซึ่งเราใช้กับใน desktopapplication ทั่วๆไปก็สามารถใช้ได้บนเว็บเช่นกัน โดยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการสร้าง RIA เช่น AJAX, Flash คุณสมบัติที่เรียกว่า mash-up ก็เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของ Web 2.0 application นั่นก็คือการ ที่เราสร้าง Web application ขึ้นมาสักตัวหนึ่ง แล้วเราสามารถเปิด service ของ Web application ให้คนอื่น ๆ สามารถมาใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ผมสร้าง Web application เกี่ยวกับระบบการซื้อขายสิ้นค้า online ขึ้นมาโดยผมสามารถ mash-up ระบบของผมเข้ากับ Google maps ได้อย่างง่ายดายเพื่อที่จะทำ Web application ของผมนั่นมีความสามารถในการ ซื้อขายสินค้า online แล้วยังสามารถคำนวณระยะทางและเวลาในการขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้า รวมทั้งสามารถพิมพ์แผนที่เส้นทางได้ โดยที่ผมไม่ต้องสร้าง Application สำหรับสร้างแผนที่ขึ้นมาเองเลย โดยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องคือ Feeds, RSS, SOA, Web services
 เทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับ Web 2.0  AJAX ถือว่าเป็น เทคโนโลยีที่สำคัญมากๆ สำหรับ Web 2.0 application เลยทีเดียว โดยAJAX ใช้สำหรับการสร้าง user interface ที่สามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้นบนเว็บ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ AJAX นั้นสามารถทำงานบนทุก browser ไม่ว่าจะเป็น IE, Firefox, Opera หรือ Safari ก็ตาม ตัวอย่าง Web 2.0 application ที่นำ AJAX ไปใช้ก็เช่น Gmail, Google Docs & Spreadsheets,Google Calendar หรือ LetsProve VO XML, Web services ใช้ในการทำให้ Web 2.0 application สามารถ integrate functional ในการทำงานร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้น application ที่เราคุ้นเคยก็เช่น เราสามารถติดตามตำแหน่งงานที่เราสนใจใน Jobsdb ได้โดย RSS feeds SaaS (Software as service) เป็น Model ใหม่สำหรับการใช้บริการ software โดยที่แต่ก่อนเราอาจจะต้องซื้อ software เป็น license แล้วนำมา install บนเครื่องเรา แล้วเมื่อถึงเวลาที่ผู้ผลิต update software เป็น version ใหม่เราก็ต้องไป download หรือซื้อ software ใน version ใหม่ และถ้าหากมีผู้ใช้ software เป็นจำนวนมาก ๆ ก็จะต้องเสียเวลาและเงินอย่างมากในการ update software แต่ละที ซึ่ง SaaS จะสามารถแก้ปัญหาในจุดนี้ได้โดยมอง software เป็นเหมือนบริการๆ หนึ่ง โดยผู้ใช้บริการเพียงแค่จ่ายเงินค่าบริการ แล้วก็สามารถใช้งาน software ผ่านทาง web browser ได้ทันที เมื่อมีการ update software ก็จะทำเองอัตโนมัติโดยผู้ผลิต SaaS มีข้อดีคือ ผู้ใช้จะสามารถวางแผนงบประมาณสำหรับการซื้อ software ได้มากยิ่งขึ้น (ไม่ใช่ว่าซื้อ software มาแล้วยังต้องจ่ายค่า support, fix bug ตามมาอีก) และใช้เวลาน้อยกว่าในการ update version software แต่ละครั้ง ตัวอย่าง SaaS เช่น Google, Salesforce, Zoho
สรุป Web 2.0 ก็คือการกำหนดสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของเทคโนโลยีเว็บ ว่ามีอะไรบ้าง คล้าย ๆ กับการกำหนดยุคปัจจุบันของเว็บว่าอยู่ในยุคที่ 2 ของการพัฒนา โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญรวม ๆ เข้าด้วยกันนั่นเอง